Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ความหรูที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกกุหลาบ อาจเป็นรถใหม่ที่แพงที่สุดในโลก
Rolls-Royce เผยโฉม La Rose Noire Droptail เป็นรถ 1 ใน 4 คัน ที่มีการการผลิตพิเศษตามสั่ง ได้แรงบันดาลใจมาจากความโรแมนซ์และสเน่ห์ของดอกกุหลาบ Black Baccara ตอนนี้ตัวรถถูกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา และมีราคาประเมินอยู่ที่ 30 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1 พันล้านบาท
Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ซึ่งนำแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากดอกกุหลายสายพันธ์ในฝรั่งเศส มีภายนอกของรถเป็นสีแดงที่มีเอกลักษณ์จากการออกแบบเพื่อให้ดูเหมือนกับสีดำเมื่อรถอยู่ในเงาร่ม แต่เป็นสีแดงแวววาวเมื่ออยู่ใต้แสงอาทิตย์ โดยทางผู้ผลิตรถยนต์หรูจากสหราชอาณาจักรระบุว่าเป็นการรวม 2 เฉดสีแดงที่เรียว่า True Love และ Mystery ไว้ด้วยกัน
นอกจากนี้ภายนอกของรถยังถูกออกแบบให้มีเอกลักษณ์ทีมีความแตกต่างจากรถรุ่นอื่นได้ทันที แต่ยังคงแสดงถึงสิ่งที่สืบทอดต่อมาของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าของรถที่มีกระจังหน้าขนาดใหญ่และไฟหน้า LED เรียวเล็ก ด้านข้างของรถที่มีความไหลลื่น ขณะที่ด้านท้ายของรถมีไฟท้ายในดีไซน์ที่ไม่เคยเห็นจากรถรุ่นอื่นมาก่อน นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังมีการออกแบบด้านหลังเบาะนั่งของรถให้มีความโดดเด่นสะกดสายตาพร้อมมีสปอยเลอร์หลังปลายฝาท้าย ส่วนหลังคาของรถที่สามารถถอดออกได้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมกับมีแผง Electrochromic
ห้องโดยสารของรถถูกบรรยายไว้ว่าเป็นส่วนที่มีความโดดเด่นที่สุดของรถ โดยใช้เวลาถึง 2 ปีในการทำส่วนนี้ ด้วยงานศิลป์ที่แสดงถึงกลีบดอกกุหลาบที่กำลังร่วงหล่นโดยการใช้ไม้สีดำจำนวน 1,603 ชิ้น ขณะที่เบาะนั่งเป็นการรวมหนังสีแดง Mystery และสีแดง True Love ไว้ด้วยกัน ส่วนกลางแผงแดชบอร์ดเป็นนาฬิกา Audemars Piquet ที่ทำออกมาโดยเฉพาะ โดยเป็นนาฬิกาโครโนกราฟขนาด 43 มม. ที่สามารถกดปุ่มเพื่อถอดออกมาติดสายสำหรับใส่ที่ข้อมือได้
Droptail ที่ถูกผลิตในแบบ Coachbuilt แตกต่างจาก Sweptail และ Boat Tail เพราะอยู่บนแชสซีส์โนโนค็อกใหม่ที่ผลิตจากเหล็กกล้า อลูมินัม และคาร์บอนไฟเบอร์ ไม่ได้อยู่บนแพลตฟอร์ม Architecture of Luxury เหมือนกับที่ใช้ในรถรุ่นอื่นของ Rolls-Royceอย่าง Cullinan Ghost และ Phantom ส่วนระบบขับเคลื่อนของรถเป็นเครื่องยนต์ V12 6.75 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีกำลัง 593 แรงม้า แรงบิด 840 นิวตัน-เมตร และแม้จะเป็นยานยนต์หรูไม่ได้เน้นด้านสมรรถนะ แต่ก็ใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ 250 กม./ชม.
นอกจากรถและผู้สั่งผลิตรถยังได้รับ Champagne Chest ที่ถูกผู้ผลิตรถยนต์หรูทำเป็นพิเศษโดยประกอบด้วยแก้วแชมเปญผลิตด้วยมือและถาดเสิร์ฟไปพร้อมกันด้วย