Kia EV6 GT ปรับโฉมเพิ่มกำลังและความรู้สึกในการขับ
หลังการปรับโฉมให้กับ EV6 ที่เกาหลีใต้ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้วทยอยปรับโฉมในตลาดอื่น ล่าสุดทาง Kia ได้ปรับโฉมให้กับรุ่นสมรรถนะสูง EV6 GT ที่เกาหลีใต้ ซึ่งรถรุ่นปรับโฉมได้รับการปรับเพิ่มกำลังมากขึ้น และมีการทำงานเพื่อเพิ่มความรู้สึกในการขับมากขึ้น
Kia EV6 GT รุ่นปรับโฉมใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่สำหรับการขับเคลื่อนทุกล้อให้กำลังรวม 609 แรงม้า แรงบิด 740 นิวตัน-เมตร สามารถเพิ่มขึ้นเป็น 654 แรงม้า เพิ่มแรงบิดเป็น 770 นิวตัน-เมตรได้ชั่วคราวจากฟังชัน Boost และเมื่อใช้ Launch Control จะทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 3.5 วินาที จากตัวเลขกำลังของรถรุ่นปรับโฉมหมายความว่ามีกำลังเพิ่มขึ้น 65 แรงม้าและมีแรงบิดเพิ่มขึ้น 31 นิวตัน-เมตร
อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรถรุ่นปรับโฉมคือระบบ Virtual Gear Shift ที่สร้างความรู้สึกเหมือนการเปลี่ยนเกียร์ในรถเครื่องยนต์สันดาปด้วยเอฟเฟกต์เสียงและการปรับแรงบิด เพื่อให้ประสบการณ์ในการขับมากขึ้น รวมไปถึงยังมีอุปกรณ์มาตรฐานด้านสมรรถนะอย่างระบบควบคุมช่วงล่างอีเล็กทรอนิก และ Limited-slip Differential อีเล็กทรอนิกหรือ e-LSD มากับรถ
นอกจากเพิ่มกำลังขับเคลื่อนแล้ว รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ยังถูกเพิ่มความจุแบตเตอรีจาก 77.4 kWh ในรุ่นก่อนเป็น 84 kWh ทำให้มีระยะการเดินทางเพิ่มขึ้นเป็น 355 กิโลเมตร ส่วนการชาร์จไฟรองรับการชาร์จเร็ว 350 kW ทำให้ใช้เวลาไม่ถึง 18 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกมากับชุดแต่งในสไตล์เกรดแต่ง GT-Line แต่ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างบางส่วนอย่างเกรด GT มากับล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วโดยมีคาลิเปอร์สีเขียว Lime-green ด้านหลัง มีลายช่องดักลมที่กันชนแตกต่างออกไป รวมไปถึงมีการออกแบบ Diffuser และแถบทับทิมสะท้อนแสงที่กันชนหลังใหม่ พร้อมเพิ่มสีเทา Wolf Gray เข้ามาให้เลือกสำหรับภายนอกรถนอกจากสีขาว Snow White Pearl สีแดง Runway Red สีดำ Aurora Black Pearl และสีฟ้า Yacht Matte Blue
ห้องโดยสารของรถมากับการแต่ง GT-exclusive ใช้สีเขียว Lime-green แต่งบนหนังและ Suede สีดำ ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นในห้องโดยสารมีจอโค้งที่ประกอบด้วยจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว การแสดงระบบนำทาง Augment Reality พวงมาลัยที่ออกแบบใหม่ เบาะสปอร์ตบักเก็ตซีตปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปรับความอุ่นและระบายอากาศได้
ที่เกาหลีใต้เปิดรับออร์เดอร์รถเอสยูวีไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นใหม่แล้ว โดยมีราคาเริ่มต้น 72.2 ล้านวอนหรือประมาณ 1,783,000 บาท ส่วนการส่งมอบรถจะเริ่มในช่วงต้นปี 2025