แม้ Audi จะมี RS e-Tron GT เป็นทางเลือกที่มีความแรงมากกว่าปกติอยู่แล้ว แต่ล่าสุดมีทางเลือกที่ยกระดับความแรงของรถแกรนด์ทัวริสโมไฟฟ้ารุ่นนี้ไปอีกขั้นด้วยรุ่นที่มีคำว่า Performance ต่อท้าย ซึ่งมากับกำลังขับเคลื่อนสูงสุดกว่า 900 แรงม้า

Audi RS e-Tron GT Performance มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยที่ด้านหน้าเป็นมอเตอร์ Permanent-magnet Synchronous กำลัง 252 kW หรือ 342 แรงม้า ส่วนด้านหลังของรถใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent-magnet Synchronous ที่ถูกพัฒนาใหม่มีกำลัง 415 kW หรือ 564 แรงม้า ซึ่งทางผู้ผลิตระบุว่าโรเตอร์ในมอเตอร์หลังมีความกระทัดรัดกว่าและน้ำหนักเบากว่า จนทำให้น้ำหนักของมอเตอร์หลังลดลงถึง 10 กิโลกรัม ขณะที่กำลังสูงสุดของรถสูงถึง 925 แรงม้า

ส่วนแบตเตอรีของรถมีความจุ 97 kWh รองรับการชาร์จไฟได้สูงสุด 320 kW ทำให้ใช้เวลา 18 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อชาร์จไฟจากสถานี High-power Charging ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

รถใช้ช่วงล่าง Air Suspension ที่ถูกพัฒนาใหม่ใช้เทคโนโลยี 2-Chamber/2-Valve เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมทั้งเป็นครั้งแรกที่มีระบบ Wheel-selective Active Suspension เป็นออปชันให้เลือก นอกจากนี้ยังมี RS-specific Mode คือ RS1 และ RS2 ให้ใช้เพื่อให้ผู้ขับสามารถเลือกโหมด ช่วงล่าง ความสูง และเสียงของรถได้จากพวงมาลัยของรถ นอกจากนี้เพื่อให้รถมีระยะการเดินทางที่ไกลจึงมีล้อขนาด 20 นิ้ว Multi-spoke ใหม่และยางต้านการหมุนต่ำเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ก็มีล้อขนาด 21 นิ้วและยางที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน 2 แบบเป็นออปชันให้เลือก

ภายนอกของรถนอกจากถูกออกแบบส่วนต่างๆ ให้มีความโดดเด่นแล้วยังสามารถสร้างความแตกต่างจากรุ่นที่มีกำลังน้อยกว่าด้วยสีเขียว Bedford Green ใหม่สำหรับรุ่นโดยเฉพาะ ขณะที่ห้องโดยสารมีการเย็บด้ายสีเขียว Serpentine Green เพื่อให้เข้ากับสีภายนอกของรถ นอกจากนี้ยังมีออฟชันลายพรางคาร์บอนให้เลือกแต่ทั้งภายนอกและภายในของรถ รวมทั้งยังมีเสียง Sport เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถ

รถจะถูกผลิตในแบบ Small-series Production ที่ Bollinger Hofe ขณะที่ราคารถเริ่มต้นที่ 160,000 ยูโร