Mercedes-Maybach SL 680 Monogram Series ครั้งแรกที่ขยายความหรูมาสู่ความสปอร์ต

นับตั้งแต่ Mercedes นำเอาแบรนด์ Maybach กลับมาทำตลาดรถยนต์อีกครั้งตั้งแต่ปี 2014 ก็มีรถยนต์หรูทั้งในแบบซีดาน เอสยูวี รวมทั้งรถไฟฟ้าออกมาหลายรุ่น แต่ล่าสุดแบรนด์รถยนต์สุดหรูนี้จาก Mercedes ขยายความหรูของตนมาสู่ทางเลือกที่มีความสปอร์ตกว่ารถรุ่นอื่นๆ ของตนด้วยรถโรดสเตอร์ SL 680 Monogram Series ที่แม้จะมีความเกี่ยวข้องกับ Mercedes-Benz SL แต่ก็บ่งบอกถึงความเป็น Maybach เอาไว้ทั่วทุกส่วนของรถ

        Mercedes-Maybach SL 680 Monogram Series มี 2 สไตล์ให้เลือกระหว่าง Red Ambience ที่มีภายนอกสีทูโทนสีดำ Obsidian Black Metallic ร่วมกับสีแดง Manufaktur Garnet Red Metallic หรือ White Ambience  ที่ใช้สีดำ Obsidianc Black Metallic ร่วมกับสีขาว Manufaktur Opalite White Mango โดยทางผู้ผลิตระบุว่า 2 สี Manufaktur ที่ใช้ให้ทั้งความน่าหลงใหล ความสวยงาม และความเจิดจ้าที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายทอดปรัชญาและประสบการณ์การขับของรถรุ่นใหม่

        รถโรดสเตอร์ยังบ่งบอกถึงความเป็น Maybach ด้วยกระจังหน้าโครเมียมพร้อมช่องกระจังแนวตั้งโดยมีชื่อ Maybach อยู่ด้านบน ส่วนบนฝากระโปรงหน้ามีโลโก้ดาว 3 แฉกพร้อมมีครีบโครเมียมยาวถึงด้ายหลัง พร้อมบ่งบอกถึงความหรูด้วยสีโรสโกลด์ภายในไฟหน้า ส่วนช่องดักลมที่กันชนหน้ามีลายโลโก้ Maybach และเสริมความโดดเด่นด้วยกรแบกระจกหน้าโครเมียม

        ด้านหลังรถมาพร้อมกับไฟท้ายที่มีไฟโลโก้ Maybach พร้อมมี Diffuser ที่ออกแบบโดยเฉพาะ ขณะที่ล้อฟอร์จลาย 5-hole ที่มากับรถมีขนาด 21 นิ้ว นอกจากนี้รถโรดสเตอร์หรูยังถูกแต่งด้วยโครเมียมรอบคันทั้งที่กันชนหน้าและกันชนหลัง ขณะที่หลังคาอ่อนของรถเป็นสีดำพร้อมโลโก้ Maybach ขนาดเล็กทั่วทั้งหลังคา และหากต้องการความพิเศษยิ่งขึ้นทางผู้ผลิตรถยนต์หรูมีทางเลือกด้วยการทำลายโลโก้ Maybach สีเทา Grey Uni ทั่วทั้งพื้นที่สีดำของฝากระโปรงหน้าซึ่งบางขึ้นตอนในการทำส่วนนี้เป็นงานทำด้วยมือคน

        ห้องโดยสารใช้หนัง Nappa สีขาว Crystal White สร้างบรรยากาศความหรูทั้งที่แผงประตู คอนโซลกลาง และเบาะนั่งที่มีลายดอกไม้ใหม่ รวมไปถึงมีทั้งพวงมาลัย แป้นเหยียบ และครอบบันไดที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และใช้โครเมียมสีเงินแต่งตามส่วนต่างๆ ในห้องโดยสาร ขณะที่จอแสดงข้อมูลการชับและจอควบคุมตรงกลางมีกราฟฟิกเริ่มหน้าจอเฉพาะของ Maybach

        ขุมพลังของรถเป็นเครื่องยนต์ 4.0 ลิตรไบเทอร์โบ 585 แรงม้า ใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 9G-Tronic สู่ทุกล้อของรถผ่านระบบ 4Matic+ พร้อมมีระบบควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานกับรถ เพื่อให้การขับที่คล่องแคล่วและมีเสถียรภาพ ส่วนราคาและกำหนดการขายรถทางผู้ผลิตยังไม่ได้เปิดเผยออกมา