Mazda ฉลองความสำเร็จผลิตขุมพลังโรตารีครบ 2 ล้านเครื่อง
Mazda ประกาศออกมาว่าได้บรรลุเป้าหมายในการผลิตเครื่องยนต์โรตารีถึง 2 ล้านเครื่องแล้ว นับตั้งแต่มีการผลิตเครื่องยนต์นี้ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งกลับมาใช้ครั้งในรถเอสยูวีไฮบริดรุ่นล่าสุด
Mazda เริ่มต้นการพัฒนาเครื่องยนต์โรตารีที่มีขนาดเล็กกว่าเครื่องยนต์ประเภทอื่น โดยมีโครงสร้างของเครื่องยนต์และการทำงานที่มีเอกลักษณ์ด้วยการหมุนโรเตอร์ 3 เหลี่ยมด้วยการร่วมมือกับ NSU/Wankel ในปี 1961 จากนั้นก็มีการใช้เครื่องยนต์โรตารีกับรถในสายการผลิตเป็นครั้งแรกกับรุ่น Cosmo Sport ในปี 1967 รวมทั้งยังทำรถคอนเซ็ปต์ใช้เครื่องยนต์โรตารีออกมาอีกหลายครั้งหลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็น Familia Rotary, Luce Rotary แล้วหลังจากนั้นในปี 1970 ก็นำมาใส่ไว้ในรถรุ่น Capella โดยตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปี 1973 ทางMazda ผลิตเครื่องยนต์โรตารีไป 500,000 เครื่อง
เมื่อถึงปี 1978 ความนิยมของรถใช้เครื่องยนต์โรตารีเพิ่มสูงขึ้นหลังการเปิดตัว RX-7 เจเนเรชันแรกออกมา และต่อมาเพียงปีเดียวกลังการออกมาของ RX-7 เจเนเรชันที่ 2 ในปี 1986 ทางผู้ผลิตรถยนต์จากเมืองฮิโรชิมาก็ผลิตเครื่องยนต์โรตารีรวมถึง 1.5 ล้านเครื่อง
อีกความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องยนต์โรตารีจากผู้ผลิตรถยนต์รายนี้คือรถแข่ง 787B ที่ใช้เครื่องยนต์โรตารีชนะการแข่งเลอมังส์ 24 ชั่วโมงในปี 1991 ทำให้ Mazdaเป็นผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายแรกที่ชนะการแข่งรถระยะไกลรายการนี้ โดยในปีเดียวกันนั้น RX-7 เจเนเรชันที่ 3 ซึ่งใช้เครื่องยนต์โรตารีก็ถูกเปิดตัวออกมา และกลายเป็นรถสปอร์ตคลาสสิกที่นักสะสมรถแสวงหากันในปัจจุบันนี้
ต่อมาในปี 2003 รถรุ่น RX-8 ที่มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์โรตารีถูกส่งออกมาทำตลาด แต่เมื่อยุติการผลิตรถรุ่นนี้ไปในปี 2012 เครื่องยนต์โรตารีก็หายไปจากตลาดจนกระทั่งกลับมาอีกครั้งรถเอสยูวีไฮบริด MX-30 e-Skyactiv R-EV ที่เข้าสู่สายการผลิตเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและจะถูกขายในบางตลาด โดยเครื่องยนต์โรตารีใน MX-30 ไม่ได้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนรถเหมือนในอดีต แต่ทำหน้าที่สร้างไฟฟ้าเพื่อชาร์จให้กับแบตเตอรีขนาด 17.8 kWh สำหรับให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนรถ
ทาง Takeshi Mukai ผู้บริหารของ Mazdaพูดเกี่ยวกับเครื่องยนต์ที่มีเอกลํกษณ์ซึ่งเพิ่งออกมา 2 ล้านเครื่องว่า “เครื่องยนต์โรตารีมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของเรา และแสดงถึงจิตวิยญาณที่ไม่หยุดความท้าทายของเรา เครื่องยนต์โรตารีเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก และเราก็มีความตื่นเต้นที่กลับมาผลิตและเห็นมันกลับมาอีกครั้ง”